ส่วนแบ่งตลาดสถานีบริการน้ำมัน: วิเคราะห์การแข่งขันล่าสุด

อุตสาหกรรมสถานีบริการน้ำมันในประเทศไทยยังคงเป็นธุรกิจที่มีการแข่งขันสูง ทั้งจากผู้เล่นรายเดิมและรายใหม่ที่มองเห็นโอกาสจากปริมาณการใช้เชื้อเพลิงที่เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การทำความเข้าใจส่วนแบ่งตลาดสถานีบริการน้ำมันจึงมีความสำคัญอย่างยิ่งสำหรับทั้งนักลงทุน ผู้ประกอบการ และผู้บริโภค เพื่อให้เห็นภาพรวมของภูมิทัศน์ทางธุรกิจ และแนวโน้มที่กำลังจะเกิดขึ้น

ส่วนแบ่งตลาดสถานีบริการน้ำมัน: ภาพรวมและความเคลื่อนไหว

ตลาดสถานีบริการน้ำมันเป็นหนึ่งในธุรกิจที่มีเสถียรภาพในประเทศไทย แต่ก็มีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา การแข่งขันไม่ได้จำกัดอยู่แค่การจำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเท่านั้น แต่ยังรวมถึงธุรกิจเสริมต่างๆ เช่น ร้านสะดวกซื้อ ร้านกาแฟ หรือสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า เพื่อดึงดูดผู้บริโภคและสร้างรายได้เพิ่ม

ผู้เล่นหลักในตลาดนี้ประกอบด้วย ปตท. (PTT) บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (BCP) และเชลล์ (Shell) รวมถึงผู้เล่นรายอื่นๆ ที่มีส่วนแบ่งตลาดรองลงมา แต่ก็มีบทบาทสำคัญในการสร้างความหลากหลายและกระตุ้นการแข่งขัน

ปตท. ยังคงครองส่วนแบ่งตลาดอันดับหนึ่ง

จากข้อมูลและบทวิเคราะห์ต่างๆ พบว่า ปตท. ยังคงรักษาสถานะผู้นำในตลาดสถานีบริการน้ำมันของประเทศไทยเอาไว้ได้ ด้วยจำนวนสถานีบริการที่ครอบคลุมทั่วประเทศ และเครือข่ายธุรกิจที่แข็งแกร่ง ไม่เพียงแต่จำหน่ายน้ำมันเชื้อเพลิงเท่านั้น แต่ยังขยายไปในธุรกิจร้านค้าสะดวกซื้อ (7-Eleven ในสถานีบริการ) และร้านกาแฟ (Café Amazon) ซึ่งเป็นแหล่งรายได้สำคัญที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่ง

ทั้งนี้ คุณอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) ได้เคยกล่าวถึงแผนการดำเนินธุรกิจที่เน้นการปรับตัวให้สอดรับกับกระแสพลังงานสะอาดและรถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ในการรักษาความเป็นผู้นำในระยะยาว แม้ว่าทิศทางพลังงานโลกจะเปลี่ยนแปลงไป

บางจากฯ: การขยายตัวและกลยุทธ์เชิงรุก

บางจากฯ เป็นอีกหนึ่งผู้เล่นที่น่าจับตาในตลาดนี้ ด้วยกลยุทธ์การขยายธุรกิจที่เน้นการเติบโตอย่างยั่งยืน ทั้งการเข้าซื้อกิจการและการลงทุนในธุรกิจพลังงานทางเลือกต่างๆ ล่าสุดในการวิเคราะห์ผลประกอบการ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) คาดการณ์ว่าผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2568 (Q3 2025) จะมีแนวโน้มที่ดีขึ้น จากธุรกิจการกลั่นและจัดจำหน่ายน้ำมันที่ฟื้นตัว รวมถึงการรับรู้ผลประกอบการจากธุรกิจใหม่ๆ

การเข้าซื้อกิจการและควบรวมในอุตสาหกรรมปิโตรเลียมและการกลั่นเป็นกลยุทธ์สำคัญที่บางจากฯ ใช้ในการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันและขยายส่วนแบ่งตลาด ทำให้บริษัทมีสถานีบริการน้ำมันและเครือข่ายธุรกิจที่แข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง

การแข่งขันที่รุนแรงและทิศทางธุรกิจล่าสุด

การแข่งขันในธุรกิจสถานีบริการน้ำมันไม่ได้จำกัดอยู่แค่การตั้งราคาเท่านั้น แต่ยังรวมถึงการสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับลูกค้า การนำเสนอสินค้าและบริการที่หลากหลาย และการลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป

ปั๊มไหน ส่วนแบ่งตลาดเยอะสุด?

คำถามที่ว่า “ปั๊มไหน ส่วนแบ่งตลาดเยอะสุด” คำตอบที่ชัดเจนในปัจจุบันคือ ปตท. ด้วยเครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดและฐานลูกค้าที่กว้างขวาง โดยมีสถานีบริการทั้งในเขตเมืองและชนบทครอบคลุมทั่วประเทศ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้ ปตท. ยังคงเป็นผู้นำตลาด

ผลกระทบของรถยนต์ไฟฟ้าและการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภค

การเติบโตของยานยนต์ไฟฟ้า (EV) กำลังเป็นปัจจัยสำคัญที่ส่งผลกระทบต่อธุรกิจสถานีบริการน้ำมันในระยะยาว ผู้ประกอบการจึงต้องปรับตัวด้วยการติดตั้งสถานีชาร์จ EV ในสถานีบริการน้ำมัน เพื่อรองรับการเปลี่ยนผ่านของอุตสาหกรรมยานยนต์ นอกจากนี้ พฤติกรรมผู้บริโภคที่หันมาสนใจพลังงานสะอาดและผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น ก็เป็นอีกหนึ่งความท้าทายและโอกาสในการปรับเปลี่ยนโมเดลธุรกิจ

ราคาหุ้น BCP และแนวโน้มการลงทุน

สำหรับนักลงทุนที่สนใจในธุรกิจนี้ ราคาหุ้น BCP (บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน)) เป็นหนึ่งในหลักทรัพย์ที่น่าจับตามอง การวิเคราะห์ผลประกอบการและแนวโน้มการเติบโตของบริษัทเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากการเข้าซื้อกิจการและการขยายการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ที่อาจส่งผลต่อราคาหุ้นในอนาคต

จากข้อมูลล่าสุดและการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ ราคาหุ้น BCP มีแนวโน้มที่จะปรับตัวตามผลประกอบการและปัจจัยภายนอก เช่น ราคาน้ำมันโลก และนโยบายพลังงานของภาครัฐ การศึกษาข้อมูลทางการเงินและบทวิเคราะห์จากแหล่งที่เชื่อถือได้จึงเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการตัดสินใจลงทุน

PTT HQ วิภาวดีรังสิต: ศูนย์กลางการบริหาร

อาคารสำนักงานใหญ่ ปตท. ณ ถนนวิภาวดีรังสิต เป็นศูนย์กลางการบริหารจัดการและวางแผนกลยุทธ์ของกลุ่ม ปตท. ซึ่งรวมถึงธุรกิจสถานีบริการน้ำมัน การตัดสินใจและทิศทางธุรกิจที่ออกมาจากที่นี่มีผลอย่างมากต่อภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรมพลังงานโดยรวม

สรุป

อุตสาหกรรมสถานีบริการน้ำมันในประเทศไทยยังคงมีการแข่งขันสูงและมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ปตท. ยังคงเป็นผู้นำตลาดด้วยเครือข่ายที่แข็งแกร่งและการขยายธุรกิจที่หลากหลาย ขณะที่บางจากฯ ก็มีการเติบโตอย่างต่อเนื่องผ่านกลยุทธ์เชิงรุก โดยเฉพาะการเข้าซื้อกิจการและการลงทุนในธุรกิจใหม่ๆ ทิศทางในอนาคตจะขึ้นอยู่กับการปรับตัวของผู้ประกอบการในการรับมือกับกระแสพลังงานสะอาดและพฤติกรรมผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงการนำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการที่ตอบโจทย์ความต้องการของตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพ